กาพย์เห่เรือ เห่ชมเครื่องคาว

กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ที่มา : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
ที่มา
กาพย์เห่เรือนี้สันนิษฐานว่าทรงพระราชนิพนธ์ เพื่อชมฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวยของ
สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชิน
ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2)
ลักษณะคำประพันธ์
แต่งเหมือนกาพย์เห่เรือ ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพ จำนวน 1 บท และกาพย์ยานี 11
ความมุ่งหมาย
1. เพื่อเป็นบทเห่เรือพระที่นั่งเวลาเสด็จประพาสส่วนพระองค์
2.เพื่อชมฝีพระหัตถ์ในการปรุงเครื่องเสวยของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
เนื้อเรื่องย่อ
กล่าวถึงอาหารคาวทั้ง 15 ชนิด คือ แกงมัสมั่นไก่, ยำใหญ่,ตับเหล็กลวก, หมูแนม, ก้อยกุ้ง, แกงเทโพ, น้ำยา,
แกงอ่อม,ข้าวหุงเครื่องเทศ,แกงคั่วส้ม,พล่าเนื้อ,ล่าเตียง หรุ่ม, ไตปลา,แสร้งว่า และอาหารหวานอีก1 ชนิดคือ รังนก
เมื่อกล่าวถึงอาหารชนิดใด กวีจะพรรณนาเชื่อมโยงไปถึงหญิงคนรัก
ตัวอย่างกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚
มัสมั่น หมายถึง ชื่อแกงชนิดหนึ่ง เป็นแกงเผ็ดอย่างมุสลิม ปรุงด้วยเครื่องเทศ
นพคุณ หมายถึง นางที่รัก, น้องที่รัก
ยี่หร่า หมายถึง ชื่อเครื่องเทศชนิดหนึ่ง กลิ่นหอมฉุน
ภุญช์ หมายถึง กิน, รับประทาน
ข้อนอก หมายถึง ตีอก
แกงมัสมั่นไก่ของน้องที่รักของพี่ มีกลิ่นหอมฉุนของยี่หร่า คงมีรสร้อนแรงมากชายใดได้รับประทานเข้าไปแล้ว
จะทำให้เกิดความรักใคร่และความหวังในตัวน้องจนถึงกับเอามือทุบอกตัวเอง และอยากกลับไปรับประทานอีก
๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
แกงมัสมั่นของน้องอันเป็นที่รักยิ่งของพี่ มีกลิ่นหอมของยี่หร่าคงมีรสร้อนแรงมาก ชายใดเมื่อได้รับประทาน
เข้าไปแล้ว จะทำให้คิดถึงแต่คนทำ

๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
ยำใหญ่ หมายถึง ชื่ออาหารยำแบบไทย ประกอบด้วย
แตงกวา ไข่ต้กุ้งต้ม หมูต้ม หนังหมู เห็ดหูหนู หัวผักกาด
ขาว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ปรุงให้มีรสเปรี้ยว เค็ม
หรือหวานก็ได้ เหลือตรา หมายถึง เหลือจะพรรณนา
หรือเหลือคะเนนับ
ยำใหญ่ที่มีเครื่องครบครับ จัดวางอยู่ในจานอย่างสุดจะพรรณนาปรุงรสด้วยน้ำปลาญี่ปุ่นทำให้
น่าลิ้มลองอย่างยิ่ง

๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
ตับเหล็ก หมายถึง ม้ามของหมู
โอชา หมายถึง รสอร่อย
น้องนำตับเหล็กมาลวกแล้วใส่น้ำส้มพร้อมกับโรยพริกไทยลงไป ทำให้มีรสอร่อยมาก ไม่มีที่ไหน
นำมาเปรียบกับฝีมือของน้องได้

๏ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
หมูแนม หมายถึง ชื่ออาหารว่างมีหลายแบบ เช่น หมูแนม
แข็งต้องห่อหมูที่โขลกหรือบดและผสมเครื่องปรุง
แล้วตามด้วยใบทองหลางที่ซ้อนบนใบตอง มัดแน่น
เก็บไว้ 3 วันจึงปิ้งทั้งห่อ แกะออกมารับประทาน
กับผักและน้ำจิ้ม
รางชาง หมายถึง สวยงาม, เด่น
หมูแนมมีรสดีเยี่ยม พร้อมมีพริกสดกับใบทองหลางเคียง พี่มองดูห่อหมูแนมแล้วเห็นสวยงาม แต่ครั้นพอ
พี่ห่างห่อหมูแนม ทำให้หัวใจพี่ปั่นป่วนคิดถึงแต่น้องอยู่ตลอดเวลา

๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
ก้อย หมายถึง อาหารจำพวกเครื่องจิ้ม ทำจากเนื้อปลา
หรือกุ้งที่ยังดิบ รับประทานกับผักสด
ประทิ่น หมายถึง กลิ่นหอม
แด หมายถึง ใจ
ก้อยกุ้งปรุงเสร็จแล้วกลิ่นหอมมากราวกับอาหารทิพย์ เมื่อสัมผัสลิ้นอร่อยมากจนแทบขาดใจ ฝีมือปรุงอาหาร
ของน้องจึงไม่มีใครเทียบได้

๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์
เทโพ หมายถึง ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ไม่มีเกล็ด รูปร่างคล้าย
ปลาสวายเนื้อมีรสอร่อย มักใช้แกงคั่วส้ม ใส่ผักบุ้ง
เรียกว่า แกงเทโพ
รสครามครัน หมายถึง รสอร่อยมาก
แกงปลาเทโพโดยใช้เนื้อท้องที่มีมันมาแกง ดูน่าซดเสียเหลือเกิน คงมีรสอร่อยมาก เปรียบเหมือนอาหารทิพย์
ที่พึงใจ

๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
แกงขม หมายถึง เครื่องกินกับขนมจีนน้ำยามีมะระหั่นเป็น
ชิ้นเล็กๆ แล้วลวกให้สุก
กล หมายถึง เหมือน
อ่อม หมายถึง ชื่อแกงชนิดหนึ่ง คล้ายแกงคั่ว แต่ใส่มะระ มัก
ใช้แกงกับปลาดุก เรียกว่าแกงอ่อมมะระ หรือแกงอ่อม
มะระปลาดุก
กล่อมเกลี้ยงกลม หมายถึง รสกลมกล่อม

ด้วยความรักของน้องที่มีต่อพี่ น้องจึงเปลี่ยนมาทำ
น้ำยาอย่างแกงขม เหมือนแกงอ่อมมะระ ซึ่งมีรสกลมกล่อม
ทำให้พี่ต้องชมฝีมือของน้องขาดปาก และคลับคล้ายเห็นหน้า
น้องตลอดเวลา
มัสมั่นเนื้อวัว
ยำใหญ่
ตับเหล็ก
หมูแนม
ก้อยกุ้ง
แกงเทโพ
แกงขม
แกงอ่อม
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
ลูกเอ็น หมายถึง ลูกกระวาน
เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ หมายถึง เหมือนกับที่น้องตั้งใจทำ

ข้าวหุงปรุงด้วยเครื่องเทศ มีรสพิเศษเพราะใส่ลูกกระวานลงไป ใครก็หุงไม่ได้อย่างที่น้องตั้งใจทำ
ข้าวหุง
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

พล่า หมายถึง อาหารยำที่ใช้เนื้อสดๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว
น้ำปลา พริก ตะไคร้ฝอย ใบสะระแหน่ เป็นต้น
หื่นหอม หมายถึง หอมมากจนเร้าอารมณ์
เสาวคนธ์ หมายถึง ของหอม, เครื่องหอม, กลิ่นหอม
หมูป่าต้ม
น้องรู้เรื่องในการทำอาหารมากจริงๆ นำเอาหมูป่า
มาต้มทำแกงคั่วส้มใส่ระกำ ทำให้เห็นเค้าเงื่อนแห่งความลับ
ระหว่างพี่กับน้อง ซึ่งมีแต่ความทุกข์ระทมใจ
แกงคั่ว

๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำ ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
แกงคั่วส้ม หมายถึง ชื่อแกงเผ็ด ปรุงน้ำพริกคล้ายแกงส้ม
แต่ใส่กะทิ
ความขำ หมายถึง ความลับ
ระกำ หมายถึง ชื่อปาล์มชนิดหนึ่ง ขึ้นเป็นกอ ก้านใบมี
หนามแข็ง ผลออกเป็นกระปุกกินได้
ห้องทำพล่าเนื้อสดกลิ่นหอมฟุ้งมากจนเร้าอารมณ์พี่ ทำให้คิดถึงครั้งเมื่อเราเคยทะนุถนอมรักใคร่ใกล้ชิดกัน
ด้วยความสดชื่นหอมหวน

พล่าเนื้อ
ล่าเตียง
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

ล่าเตียง หมายถึง ชื่ออาหารว่างทำด้วยไข่โรยเป็นฝอย
บนกระทะ แล้วหุ้มใสที่ทำด้วยกุ้งสับปรุงรส
พับห่อจัดเป็นคำๆ วางเป็นชั้นๆ
เมืองบน หมายถึง เมืองฟ้า, เมืองสวรรค์
ลดหลั่นชั้นชอบกล หมายถึง มีลวดลายเป็นชันๆ อย่างสวยงาม
นิทร หมายถึง นอน
พอเห็นอาหารที่ชื่อว่าล่าเตียง ทำให้พี่คิดถึงเตียงนอนของน้อง ที่เป็นเตียงทองทำเหมือนอยู่บนสวรรค์
ซึ่งมีลวดลายเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม เห็นแล้วทำให้คิดอยากนอนกับน้อง

๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
หรุ่ม หมายถึง อาหารว่างคล้ายล่าเตียง ทำด้วยไข่โรยเป็นฝอย
แต่ไส้ทำด้วยหมูสับ ห่อเป็นคำแต่คำใหญ่กว่าล่าเตียง
ไฟฟอน หมายถึง กองไฟที่ดับแล้วแต่ยังมีความร้อนระอุอยู่
พอเห็นอาหารที่ชื่อว่าหรุ่ม ความเศร้าก็ประดังกันเข้ามาในอก ทำให้ร้อนระอุอยู่ในอก เป็นความเจ็บปวด
ที่ยาวนานด้วยใจคิดถึงน้อง ทำให้พี่ร้อนรุ่มกลุ้มใจ
หรุ่ม
๏ รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

รังนก หมายถึง รังนกนางแอ่น ทำด้วยน้ำลายนกที่ขยอกออก
มาจากลำคอใช้นึ่งแล้วทำเป็นอาหารหวานคาวได้
เรียม หมายถึง พี่
เห็นรังนกนึ่งช่างน่าชม และคงมีรสอร่อยกว่าอาหารอื่นๆ ทำให้พี่นึกถึงการที่นกต้องพรากจากรังไป
ซึ่งก็เหมือนกับการที่ตัวพี่ต้องพลัดพรากจากน้องไป
รังนก
พอเห็นอาหารไตปลา และแสร้งว่า ทำให้หวนคิดถึง
คำพูดที่กระบิดกระบวนของน้อง ครั้นพอแลไปเห็นใบ
ของต้นโศกก็บอกให้พี่รู้ว่าน้องกำลังคร่ำครวญถึงพี่ทำให้
พี่เฝ้ารอคอยน้องรักของพี่อยู่ตลอดเวลา

แกงไตปลา
แสร้งว่า
๏ ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
ไตปลา หมายถึง เนื้อที่เป็นก้อนแข็งอยู่ในกระเพาะปลาบาง
ชนิดเช่น ปลาทู ใช้หมักเกลือ แล้วปลุงอาหารแบบ
เครื่องจิ้ม
แสร้งว่า หมายถึง ชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ทำด้วยกุ้งปรุงเป็น

เครื่องจิ้ม
เคร่า หมายถึง คอย
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚
ผักโฉม หมายถึง ผักกระโฉมซึ่งเป็นไม้ล้มลุก ชอบขึ้นที่ชื้น
แฉะ ดอกเล็กๆ สีม่วงแกมชมพูกลางเหลือง ออกเป็น
กระจุกที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ทุกส่วนของไม้นี้มีกลิ่น
หอมใช้เป็นอาหารและใช้ทำยาได้
พร้อง หมายถึง พูดถึง
ผักหวาน หมายถึง ชื่อไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ยอดและดอกอ่อนกินได้
ผักโฉมเป็นชื่อที่พูดถึงที่มีความไพเราะ ไม่ว่าจะเป็นตัวน้องหรือคนอื่น แต่พอเอ่ยชื่อผักหวานแล้วรู้สึกว่า
ความหวาน จะแล่นกระจายเข้าไปในอก ทำให้พี่คิดถึงความรักที่อ่อนหวานของน้อง

ผักหวาน
การพิจารณาคุณค่า
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานฯ นับเป็นวรรณคดีที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง แม้มีเนื้อเรื่องที่ไม่ยาวนัก แต่ให้คุณค่า
ที่มีประโยชน์หลายประการ คือ
1. ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมด้านอาหารการกินของคนไทยสมัยโบราณ สะท้อนให้เห็นความละเอียดอ่อน
พิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร
2. ให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณี ความเชื่อต่างๆ เช่น พิธีโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นคติความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ประกอบ
พิธีในช่วงเดือนยี่
3. สะท้องสภาพบ้านเมืองในสมัยอดีต มีการติดต่อค่าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย จึงมีการแลกเปลี่ยน
วัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วย เช่น ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใสลูกเอ็น ซึ่งเป็นวิธีการหุงข้าวแบบแขกเปอร์เซีย ใส่เครื่องเทศชนิดหนึ่งเรียกว่า "ลูกเฮลท์" เพี้ยนเสียงมาเป็น "ลูกเอ็น"
4. ให้คุณค่าเชิงวรรณศิลป์ กวีสามารถพรรณนาอาหารแต่ละชินิดได้อย่างเห็นภาพ ใช้ถ้อยคำเปรียบเทียบลึกซึ้ง
กินใจ และไพเราะ